Skip to Content

ทำความเข้าใจประกันภัยรถยนต์ก่อนเลือกซื้อ

เกร็ดความรู้

วันนี้ S-MAN จะมาช่วยสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า ควรเลือกประกันภัยรถยนต์อย่างไรให้คุ้ม คุ้มครองครบ


เคล็ดลับจาก S-MAN:

💬 เคล็ดลับจาก S-MAN: ถ้าความเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยขีดเล็ก ๆ หรือชนเบา ๆ ค่าเสียหายไม่เกิน 3,000 บาท ลองพิจารณาจ่ายเองจะดีกว่า เพราะจะช่วยรักษาสิทธิ์ NCB ไว้ได้ครับ

ทำความเข้าใจ “ประกันภัยรถยนต์” ก่อนเลือกซื้อ

ทำความเข้าใจประกันภัยรถยนต์ก่อนเลือกซื้อ

ประกันภัยรถยนต์ คือ “การกระจายความเสี่ยง” ร่วมกันของผู้เอาประกันหลายคน โดยมีบริษัทประกันเป็นผู้บริหารความเสี่ยงนั้นให้เรา

เราจ่าย “เบี้ยประกัน” เพื่อแลกกับ “ความคุ้มครอง” หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ชน สูญหาย ไฟไหม้ หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ



แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ — เบี้ยประกันไม่ได้เท่ากันทุกคน!

บริษัทจะคำนวณจากหลายปัจจัย เช่น

  • อายุของผู้ขับ
  • ประเภทของรถ (เก๋ง กระบะ SUV ฯลฯ)
  • ราคาค่าซ่อมและอะไหล่
  • สถิติการเกิดอุบัติเหตุ
  • และ “ประวัติการเคลม” ของผู้เอาประกัน

รถที่ซ่อมยากหรืออะไหล่แพง ย่อมมีเบี้ยประกันสูงกว่า ส่วนรถที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโดนขโมย เช่น SUV รุ่นยอดนิยม ก็จะมีค่าเบี้ยสูงขึ้นตามความเสี่ยงครับ


4 เหตุผลหลักที่คนไทยเลือกบริษัทประกัน

เหตุผลที่เจ้าของรถมักใช้ในการเลือกบริษัทประกันมีอยู่ 4 แบบหลัก ๆ คือ 

 บริษัทไฟแนนซ์กำหนดให้ทำกับบริษัทที่ร่วมรายการ

  • กรณีนี้เลี่ยงไม่ได้ แต่ควรอ่านเงื่อนไขให้ละเอียด ตรวจสอบสิทธิ์การเรียกร้องค่าสินไหม ว่าครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน

🎁 โปรโมชั่นประกันภัยฟรีตอนออกรถใหม่

  • แถมมากับแคมเปญของโชว์รูม ส่วนใหญ่เป็นประกันชั้น 1 อยู่แล้ว แต่ควรดูรายละเอียดก่อนว่าคุ้มครองครบหรือไม่

3. เลือกหาที่ถูกใจเอง

  • แบบนี้เหมาะกับคนที่อยากเปรียบเทียบราคาและบริการได้เต็มที่

🧾 ทำประกันยกล็อต (Fleet Insurance)

  • เหมาะกับผู้ที่มีรถหลายคัน เช่น รถบริษัท หรือรถขนส่ง ช่วยต่อรองส่วนลดได้มาก


💡 เคล็ดลับประหยัดเบี้ยประกันอย่างชาญฉลาด

S-MAN แนะนำเลยว่า ต่อให้คุณขับรถรุ่นเดียวกันกับเพื่อน เบี้ยประกันอาจต่างกันหลายพันบาท เพราะ “พฤติกรรมและเงื่อนไข” ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มาดูวิธีประหยัดเบี้ยที่ได้ผลจริง 👇

1. รวมทำประกันหลายคัน (Fleet Policy)

หากคุณมีรถมากกว่าหนึ่งคัน ลองทำประกันพร้อมกันกับบริษัทเดียวกัน มักได้ส่วนลดหรือของแถมพิเศษ

2. ใช้สิทธิ์ “No Claim Bonus” (NCB)

หากคุณไม่มีการเคลมในปีที่ผ่านมา จะได้ส่วนลดเบี้ยปีต่อไปตั้งแต่ 10–50% แล้วแต่บริษัท

3. เลือก “Deductible” (ส่วนหักลดหย่อน)

เป็นการระบุว่าคุณยอมจ่ายเองบางส่วนเมื่อเกิดเหตุ เช่น 2,000 หรือ 5,000 บาท

ยิ่งยอมจ่ายมาก ค่าเบี้ยก็จะลดลงมาก เหมาะกับคนที่มั่นใจว่าขับรถปลอดภัย

4. กำหนดผู้ขับขี่ให้แน่นอน

ถ้ากำหนดชื่อผู้ขับไว้ชัดเจน เช่น ขับเฉพาะคุณกับคนในครอบครัว เบี้ยจะถูกลง เพราะความเสี่ยงลดลง


ก่อนซื้อประกัน ดู 3 สิ่งนี้ให้ดี

1. 🧑‍💼 การให้บริการของบริษัท

อย่าดูแค่ราคาถูก! ให้ดูรีวิวการให้บริการจริง เวลามีเหตุฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่มาเร็วไหม รับเรื่องดีหรือเปล่า ลองเช็ครีวิวจากลูกค้าจริง หรือดูว่าบริษัทมี ใบรับรองมาตรฐาน ISO ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้

2. 💰 ฐานะทางการเงินของบริษัท

บริษัทประกันที่มีทุนจดทะเบียนสูงและมั่นคง ย่อมรับผิดชอบได้ดีกว่าเมื่อเกิดเคลมใหญ่ ในไทยมีบริษัทประกันกว่า 70 แห่ง แต่เพียงไม่กี่เจ้าที่ครองตลาดหลัก ดังนั้นควรเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงและมั่นคงทางการเงิน

3. 🔧 คุณภาพอู่ซ่อมในเครือ

บางบริษัทมีอู่เครือข่ายมาก แต่คุณภาพต่างกันมาก ก่อนเลือก ลองถามรายชื่ออู่ที่อยู่ในระบบ และอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง โดยเฉพาะถ้าคุณขับรถยุโรปหรือรถหรู ควรเลือกอู่ที่มีมาตรฐานสูงและใช้ของแท้


🧾 สรุปโดย S-MAN

การเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์ ไม่ใช่เรื่องของราคาอย่างเดียว แต่คือเรื่องของ “ความอุ่นใจในวันที่ไม่อยากให้เกิดเหตุ”

ก่อนตัดสินใจซื้อ S-MAN อยากฝากไว้ 3 ข้อสำคัญ 👇

  1. ศึกษารายละเอียดความคุ้มครองให้ครบ
  2. เลือกบริษัทที่มีบริการหลังการขายดี
  3. ขับรถด้วยความไม่ประมาท — เพราะ “ไม่มีเคลมไหนคุ้มเท่ากับการไม่ต้องเคลมเลย” ❤️


แชร์โพสต์นี้
แท็ก
บล็อกของเรา
การเลือกใช้น้ำมันเครื่องอย่างถูกวิธี
เกร็ดความรู้